Wednesday, September 11, 2013

สัญญาระหว่างปตท.และบริษัท Mercuria (ฉบับภาษาอังกฤษและแปลไทย)

ฉบับภาษาอังกฤษ






แปลไทย


บริษัทปตท. จำกัด (มหาชน)
ทะเบียนเลขที่ 0107544000108
555 ถนนวิภาวดีรังสิต แขวงจตุจักร เขตจตุจักร กรุงเทพฯ 10900
โทรศัพท์: +66 (0)2 537-2000 โทรสาร: +66 (0)2 537-3498-9 www.pttplc.com


แนวทางการทำงานร่วม
ปตท.-บริษัท Mercuria

ปฐมบท: ปตท.และ Mercuria ได้เป็นคู่ค้าทางด้านน้ำมันดิบ/แก๊สธรรมชาติเหลว เป็นเวลาหลายปี ธุรกิจของเราได้เติบโตจากน้ำมันดิบและในอีกหลายอย่าง และในที่สุด ก็ได้เติบโตในการเป็นหุ้นส่วนที่ดีในสินต้าปิโตรเลียมและ แก็ส LPG ด้วยเช่นกัน

วัตุประสงค์: เพื่อเป็นไปตามแนวทางการทำงานร่วมเพื่อปฏิบัติตามข้อตกลง ปตท.จะรับน้ำมันจาก The Nigerian National Petroleum Corporation (NNPC) [บริษัทน้ำมันของไนจีเรีย -ผู้แปล] เป็นปริมาณ (30,000-60,000 บาร์เรลส์ต่อวัน) เป็นระยะเวลาในสัญญาที่มีการต่อใหม่นี้ในปี 2556-2557 และในสัญญาที่ถูกยืดออกไปในปี 2555-2556

โครงสร้าง: Meruria 50% - ปตท. ระหว่างประเทศ/ปตท. 50%
ต้องจ่ายค่านายหน้าในกับ Mercuria

ประโยชน์:

Mercuria

§  มีหุ้นส่วนที่แข็งแกร่งและมีระบบสนับสนุน
§  ความยืดหยุ่นในการขนส่งสินค้า
§  ช่องทางระบายสินค้าเพิ่ม
§  มีสถานะเป็นหุ้นส่วนของบริษัทน้ำมันระดับชาติ
§  ได้ลองตลาดในตะวันออกไกล

ปตท. ระหว่างประเทศ/ปตท.

§  มีหุ้นส่วนที่แข็งแกร่งที่รู้จักการค้า/เทคนิค
§  ได้มีตลาดการค้าใหม่
§  ความยืดหยุ่นทางการค้า
§  ได้ลองตลาดในในยุโรป

ลายเซ็น

นายดำรงค์ ปิ่นภูวดล
รองประธานกรรมการ
ฝ่ายธรุกิจการค้าระหว่างประเทศ
       บริษัทปตท. จำกัด (มหาชน)


กรุณาคลิ๊ก LIKE เฟคบุ๊คของเราด้วยค่ะ   http://on.fb.me/14F7nlZ


ขายทรัพย์สินของประเทศและขึ้นราคาน้ำมัน: นายดำรงค์และข้อตกลงปตท./บริษัท Mercuria

ในอาทิตย์นี้ เราได้รับเอกสารที่รั่วออกมาจากสำนักงานใหญ่ปตท.โดยเอกสารยืนยันว่ามีคนกลุ่มหนึ่งในปตท.ผลักดันให้มีการเซ็นสัญญาระหว่างปตท.และบริษัทสัญชาติน้ำมันสวิสซึ่งมีหนี้มหาศาล

 เอกสารที่รั่วออกมานี้ลงนามโดยรองประธานกรรมการผู้บริหารปตท. นายดำรงค์ ปิ่นภูวดล เอกสารนี้เรียกว่า “แนวทางการทำงานร่วมกัน”ซึ่งเผยให้เห็นว่าบริษัท Mercuria และปตท.ได้ทำงานร่วมกันมาก่อนและจะยังดำเนินความสัมพันธ์เช่นนี้ต่อไป

ตามเอกสารนี้ (คำแปลเต็ม - และสำเนาภาษาอังกฤษ) บริษัท Mercuria จะจัดหาน้ำมันดิบ 30,000-60,000 บาร์เรลส์ต่อวันให้กับปตท. โดยจ่ายค่านายหน้าให้กับบริษัท Mercuria


สัญญาระหว่างปตท./บริษัท Mercuria 


นี่อาจถือว่าเป็นเรื่องปกติ หากบริษัท Mercuria ไม่คิดจะเข้ามาผูกขาดการจัดหาน้ำมันให้กับปตท. และนี่มิได้ถูกระบุห้ามในสัญญาโดยนายดำรงค์ บทบาทของนายดำรงค์ในการลงนามนี้ควรถูกตั้งคำถาม ปตท.ควรจะเปิดให้มีระบบการประมูล เพราะจะทำให้ปตท.ได้ข้อตกลงที่ดีที่สุดเพื่อคนไทยทั้งประเทศแทนที่จะลงนามกับบริษัทเดียวซึ่งมีหนี้หลายพันล้านดอลล่าสหรัฐ ซ้ำยังถูกสอบสวนโดยเจ้าหน้าที่ในประเทศสวิสเซอร์แลนด์และไนจีเรียอีกด้วย นอกจากนี้ ทำไมปตท.ต้องใช้นายหน้าอย่าง Mercuria ในสัญญาที่ส่วนใหญ่จะทำในลักษณะเป็นข้อตกลงระหว่างรัฐบาลต่อรัฐบาลซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคไทยได้รับอานิสงค์จากราคาน้ำมันที่ไม่มากจนเกินไป? คำตอบต่อคำถามนี้ง่ายมาก - ข้อตกลงนี้เป็นไปเพื่อประโยชน์ของคนเพียงไม่กี่คนและบริษัทต่างชาติเท่านั้น


นายดำรงค์ ปิ่นภูวดล



เราขอย้ำว่าข้อตกลงนี้จะต้องถูกตรวจสอบโดยรัฐบาล และนายดำรงค์จะต้องถูกสอบสวนอย่างเต็มที่ในบทบาทที่ช่วยผลักดันในมีการเซ็นขายทรัพย์สินอันมีค่าของประเทศ

กรุณาคลิ๊ก LIKE เฟคบุ๊คของเราด้วยค่ะ   http://on.fb.me/14F7nlZ

Friday, August 16, 2013

คนที่ทำน้ำมันรั่วและผู้สนับสนุนข้อตกลง Mercuria: นายบวร วงศ์สินอุดม


เป็นเวลาสองอาทิตย์นับตั้งแต่มีเหตุการณ์สองเหตุการณ์ที่สร้างความสะเทือนขวัญให้กับปตท. เหตุการ์แรกเป็นข่าวหน้าหนึ่งคือการรั่วของท่อส่งน้ำมันในอ่าวไทยของบริษัทพีทีที โกลบอล เคมิคอล ซึ่งกรรมการผู้จัดการใหญ่ นายบวร วงศ์สินอุดม จัดการกับปัญหาได้อย่างเลวร้ายมาก โดยปฏิเสธว่าหาดที่เกาะเสม็ดได้รับผลกระทบแม้ว่าชายหาดแหล่งท่องเที่ยวจะเริ่มมีคราบน้ำมันก็ตาม

แต่นายบวรและกลุ่มมาเฟีย Mercuria ผู้ฉาวโฉ่ต้องตกใจกับอีกเหตุการณ์ โดยในวันที่ 29 กรกฎาคม กลุ่มพลเมืองผู้กังวลเกี่ยวกับปตท.ได้ประท้วงด้านหน้าที่ทำการใหญ่ปตท.ในกทม. กลุ่มผู้ชุมนุมโจมตีบุคคลสำคัญสองคนที่อยู่เบื้องหลังข้อตกลงปตท.-Mercuria นั้นคือนายดำรงค์ ปิ่นภูวดลและนาย Starry Loo และมีข่าวว่าทั้งสองแสดงท่าทีตอบโต้การกับประท้วงครั้งนี้อย่างรุนแรง แม้จะมีการพูดถึงการประท้วงครั้งนี้น้อยมากในสื่อกระแสหลัก แต่มีการพูดถึงเรื่องนี้อย่างมากภายในองค์กรปตท.เอง และนายดำรงค์รับรู้แล้วว่าตำแหน่งของเขาถูกท้าทาย กลุ่มคนในปตท.ที่ยังคงพยายามจะผลักดันข้อตกลงที่อาจมีการคอรัปชั่นนี้ควรตระหนักว่า การประท้วงจะดำเนินต่อไป และกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องจะถูกเปิดโปง

แต่เราควรต้องให้ความสนใจกรรมการผู้จัดการใหญ่ นายบวร วงศ์สินอุดม ด้วยเช่นกัน ไม่ใช่เพียงเพราะความไร้ประสิทธิภาพของเขาคือภัยต่อสิ่งแวดล้อมไทย แต่ความไร้ซึ่งความสามารถของเขายัง “เป็นพิษ” ต่อกิจการด้านเศรษฐกิจของประเทศไทย เนื่องจากเขายังเป็นคนสำคัญที่สนับสนุนข้อตกลง Mercuria  ตามที่เราย้ำมาเสมอ ข้อตกลง Mercuria จะเป็นประโยชน์ต่อคนกลุ่มหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังข้อตกลงนี้เท่านั้น และไม่เป็นประโยชน์ต่อคนไทยทั่วไปแต่อย่างใด ชัดเจนว่าปตท.บริหารงานด้วยวัตถุประสงค์ที่จะทำให้กลุ่มผู้บริหารกลุ่มเล็กในปตท.ร่ำรวยขึ้มาเท่านั้น ข้อตกลง Mercuria จะทำให้มีการผูกขาดสินค้าน้ำมันสำหรับคนไทยและปตท. ประชาชนไทยซึ่งเป็นผู้หุ้นส่วนใหญ่จะต้องซื้อภาระหนี้ของ Mercuria หลายพันล้านดอลล่าสหรัฐ

กลุ่มมาเฟีย Mercuria จะต้องถูกยับยั้ง ร่วมถึงท่อส่งน้ำมันในอ่าวไทยจะต้องถูกปิดด้วย และผู้บริหารปตท.จะต้องถอดถอนนายบวรอาจเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ โปรดช่วยกันเผยแพร่บทความนี้

โปรคคลิ๊ก LIKE เฟคบุ๊คเพจของเราที่ https://www.facebook.com/pages/V-Against-Thai-Corruption-เปิดโปงทุริตปตท/550044948370235

Monday, July 29, 2013

แถลงข่าว: ชุมนุมประท้วงเรียกร้องให้สอบสวนข้อตกลงระหว่างปตท.และบริษัทสวิส Mercuria


วันนี้กลุ่มประชาชนซึ่งกังวลเกี่ยวกับข้อตกลงระหว่างปตท.และบริษัท Mercuria ได้จัดการชุมนุมที่หน้าสำนักงานใหญ่ปตท.ในกรุงเทพฯเพื่อประท้วงข้อตกลงดังกล่าว


เราเชื่อว่าข้อตกลงระหว่างปตท.และบริษัท Mercuria เป็นสิ่งที่น่าสงสัยและอาจจะมีการทุจริตคอรัปชั่นเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย บุคคลสำคัญในปตท.ที่อยู่เบื้องหลังข้อตกลงนี้คือนายดำรงค์ ปิ่นภูวดล ซึ่งเป็นบุคคลที่คนในปตท.บางคนมองว่าไม่มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะดำรงตำแหน่งปัจจุบันและเป็นคนที่ถูกหลายคนตั้งคำถามในเรื่องร้ายแรง
การชุมนุมของเราวันนี้เป็นการเรียกร้องให้ถอดถอนนายดำรงค์ออกจากตำแหน่ง และเราขอเน้นย้ำข้อเรียกร้องดังกล่าว โดยอย่างน้อยที่สุดเจ้าหน้าไทยซึ่งมีหน้าที่ปราบปรามการคอรัปชั่นต้องเข้ามาสอบสวนนายดำรงค์และข้อตกลงระหว่างปตท.และบริษัท Mercuria  อย่างทันทีและเต็มที่ เพราะปตท.เป็นองค์ใหญ่ขนาดใหญ่และเป็นทรัพย์สมบัติของชาติซึ่งสำคัญเกินกว่าที่จะปล่อยให้หลุดไปอยู่ในมือของกลุ่มบุคคลที่ไร้ประสิทธิภาพและเพียงต้องการกอบโกยผลประโยชน์ส่วนตัว

การขึ้นราคาน้ำมันล่าสุดซึ่งไม่สามารถอธิบายได้ ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของคนไทยทั่วไป ซึ่งเกิดจากการทำงานที่ขาดประสิทธิภาพของปตท.อย่างใหญ่หลวง นอกจากนี้ การรั่วของน้ำมันดิบในอ่าวไทยครั้งล่าสุดแสดงให้เห็นว่าการไม่รับผิดของปตท.สร้างผลลัพท์ที่เสียหายอย่างไม่เคยมีมาก่อน
 ข้อตกลงของปตท.และบริษัท Mercuria - บริษัทที่มีหนี้สินหลายพันล้านดอลล่าสหรัฐ และยังมีสายสัมพันธ์กับบริษัทอุตสาหกรรมที่ทุจริตคอรัปชั่นของไนจีเรีย คือข้อตกลงที่ดูเหมือนจะไม่มีประโยชน์ใดต่อคนไทยเลย แล้วทำไมปตท.ถึงยังเดินหน้าผลักดันข้อตกลงนี้?
เป็นไปได้หรือไม่ที่กลุ่มบุคคลในปตท.กลุ่มหนึ่งที่พยายามจะผลักดันข้อตกลงนี้ได้รับประโยชน์และเงินทองมหาศาลตอบแทนจากข้อตกลงนี้?
เราต้องการให้เจ้าหน้าที่รัฐและสื่อมวลชนไทยตั้งคำถามแบบนี้ ในกรณีข้อตกลงระหว่างปตท.และบริษัท Mercuria รวมถึงสอบสวนการเจรจาระหว่างนายดำรงค์และตัวแทนบริษัท Mercuria ในประเทศไทย นายสตาร์รี่ ลู (Starry Loo หรือ CP Loo) ด้วย
เพราะการสอบสวนจะทำให้ความจริงถูกเปิดเผย และยังทำให้คนไทยรู้สึกมั่นใจว่าปตท.ซึ่งเป็นทรัพย์สินอันมีค่าของชาติจะปฏิบัติตนโดยชอบด้วยกฎหมายและรับผิดชอบ โดยไม่ตอบรับข้อตกลงที่จะทำให้บริษัทต่างชาติซึ่งมีประวัติน่าสงสัยอย่าง Mercuria เข้ามาผูกขาดปตท.
**ชมวิดีโอคลิปการประท้วงได้ที่นี่  **