เป็นเวลาสองอาทิตย์นับตั้งแต่มีเหตุการณ์สองเหตุการณ์ที่สร้างความสะเทือนขวัญให้กับปตท.
เหตุการ์แรกเป็นข่าวหน้าหนึ่งคือการรั่วของท่อส่งน้ำมันในอ่าวไทยของบริษัทพีทีที โกลบอล
เคมิคอล ซึ่งกรรมการผู้จัดการใหญ่
นายบวร วงศ์สินอุดม จัดการกับปัญหาได้อย่างเลวร้ายมาก โดยปฏิเสธว่าหาดที่เกาะเสม็ดได้รับผลกระทบแม้ว่าชายหาดแหล่งท่องเที่ยวจะเริ่มมีคราบน้ำมันก็ตาม
แต่นายบวรและกลุ่มมาเฟีย Mercuria
ผู้ฉาวโฉ่ต้องตกใจกับอีกเหตุการณ์ โดยในวันที่ 29 กรกฎาคม
กลุ่มพลเมืองผู้กังวลเกี่ยวกับปตท.ได้ประท้วงด้านหน้าที่ทำการใหญ่ปตท.ในกทม. กลุ่มผู้ชุมนุมโจมตีบุคคลสำคัญสองคนที่อยู่เบื้องหลังข้อตกลงปตท.-Mercuria
นั้นคือนายดำรงค์ ปิ่นภูวดลและนาย Starry Loo และมีข่าวว่าทั้งสองแสดงท่าทีตอบโต้การกับประท้วงครั้งนี้อย่างรุนแรง
แม้จะมีการพูดถึงการประท้วงครั้งนี้น้อยมากในสื่อกระแสหลัก แต่มีการพูดถึงเรื่องนี้อย่างมากภายในองค์กรปตท.เอง
และนายดำรงค์รับรู้แล้วว่าตำแหน่งของเขาถูกท้าทาย
กลุ่มคนในปตท.ที่ยังคงพยายามจะผลักดันข้อตกลงที่อาจมีการคอรัปชั่นนี้ควรตระหนักว่า
การประท้วงจะดำเนินต่อไป และกลุ่มคนที่เกี่ยวข้องจะถูกเปิดโปง
แต่เราควรต้องให้ความสนใจกรรมการผู้จัดการใหญ่
นายบวร วงศ์สินอุดม ด้วยเช่นกัน ไม่ใช่เพียงเพราะความไร้ประสิทธิภาพของเขาคือภัยต่อสิ่งแวดล้อมไทย
แต่ความไร้ซึ่งความสามารถของเขายัง “เป็นพิษ” ต่อกิจการด้านเศรษฐกิจของประเทศไทย
เนื่องจากเขายังเป็นคนสำคัญที่สนับสนุนข้อตกลง Mercuria ตามที่เราย้ำมาเสมอ ข้อตกลง Mercuria จะเป็นประโยชน์ต่อคนกลุ่มหนึ่งที่อยู่เบื้องหลังข้อตกลงนี้เท่านั้น
และไม่เป็นประโยชน์ต่อคนไทยทั่วไปแต่อย่างใด ชัดเจนว่าปตท.บริหารงานด้วยวัตถุประสงค์ที่จะทำให้กลุ่มผู้บริหารกลุ่มเล็กในปตท.ร่ำรวยขึ้มาเท่านั้น
ข้อตกลง Mercuria จะทำให้มีการผูกขาดสินค้าน้ำมันสำหรับคนไทยและปตท.
ประชาชนไทยซึ่งเป็นผู้หุ้นส่วนใหญ่จะต้องซื้อภาระหนี้ของ Mercuria
หลายพันล้านดอลล่าสหรัฐ
กลุ่มมาเฟีย Mercuria จะต้องถูกยับยั้ง ร่วมถึงท่อส่งน้ำมันในอ่าวไทยจะต้องถูกปิดด้วย
และผู้บริหารปตท.จะต้องถอดถอนนายบวรอาจเร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
โปรดช่วยกันเผยแพร่บทความนี้
โปรคคลิ๊ก LIKE เฟคบุ๊คเพจของเราที่ https://www.facebook.com/pages/V-Against-Thai-Corruption-เปิดโปงทุริตปตท/550044948370235